
เที่ยวจิ่วจ้ายโกว เดือนไหนดี สัมผัสสวรรค์บนดินที่เมืองจีน ฉบับครอบครัวงบสบาย
จิ่วจ้ายโกว ดินแดนที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น \”สวรรค์บนดิน\” ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามน่าทึ่งที่สุดในโลก ด้วยทะเลสาบสีฟ้าครามและเขียวมรกต น้ำตกที่ไหลลดหลั่น และหมู่บ้านชาวทิเบตอันเป็นเอกลักษณ์ ความงามเหล่านี้ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาที่ปกคลุมด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ ทำให้จิ่วจ้ายโกวเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายคน แต่สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ การวางแผนเที่ยวอาจต้องพิจารณาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่อง \”เที่ยวจิ่วจ้ายโกว เดือนไหนดี\” เพื่อให้ทริปนี้เป็นไปอย่างราบรื่น สนุก และประหยัดงบประมาณ
เที่ยวจิ่วจ้ายโกว เดือนไหนดีที่สุด?
คำถามยอดฮิตสำหรับนักเดินทางที่ต้องการไปเยือนจิ่วจ้ายโกว คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการไปชมความงาม สำหรับครอบครัว การเลือกช่วงเวลาที่อากาศดี เดินทางสะดวก และผู้คนไม่หนาแน่นจนเกินไปเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – ตุลาคม): หลายคนยกให้ช่วงนี้เป็นช่วงที่จิ่วจ้ายโกวสวยงามที่สุด \”สวรรค์บนดิน\” แห่งนี้จะถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งสีเหลือง สีแดง สีส้ม ตัดกับสีฟ้าใสของน้ำในทะเลสาบ เป็นภาพที่งดงามราวกับภาพวาด อากาศช่วงนี้เย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเล่นชมธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวสูงสุด ทำให้ผู้คนหนาแน่นมาก ราคาที่พักและตั๋วเครื่องบินอาจสูงกว่าปกติ หากเลือกมาช่วงปลายเดือนตุลาคม อาจเจอคนน้อยลงบ้างและราคาไม่สูงเท่าช่วงต้นถึงกลางเดือน แต่ใบไม้เปลี่ยนสีก็อาจร่วงไปบ้างแล้ว
ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน – พฤษภาคม): เป็นอีกช่วงที่น่าสนใจสำหรับครอบครัว อากาศกำลังดี ไม่ร้อนหรือหนาวจัด ดอกไม้เริ่มผลิบาน ต้นไม้เขียวขจี น้ำในทะเลสาบและน้ำตกเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากช่วงฤดูหนาว ผู้คนไม่หนาแน่นเท่าช่วงฤดูใบไม้ร่วง ทำให้เที่ยวได้สบายกว่า เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลีกเลี่ยงฝูงชนและเพลิดเพลินกับธรรมชาติอย่างสงบ เป็นช่วงที่ค่าใช้จ่ายโดยรวมมักจะต่ำกว่าช่วงพีคซีซั่น
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม): อากาศค่อนข้างอบอุ่นถึงร้อน อาจมีฝนตกชุกในช่วงบ่ายถึงเย็น ข้อดีคือปริมาณน้ำในน้ำตกเยอะ ทำให้ชมความงามของน้ำตกได้อย่างเต็มที่ แต่ข้อเสียคือคนเยอะและอาจเจอฝน ซึ่งทำให้การเดินทางกับเด็กและผู้สูงอายุไม่สะดวกนัก
ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – มีนาคม): อากาศหนาวจัด บางส่วนของอุทยานอาจปิดให้บริการ ทะเลสาบบางแห่งอาจกลายเป็นน้ำแข็ง แต่ก็มีความงามในแบบของฤดูหนาว คือภาพธรรมชาติที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบอากาศหนาวจัดและไม่กลัวความไม่สะดวกในการเดินทางบางประการ ในช่วงนี้คนน้อยที่สุด และค่าใช้จ่ายถูกที่สุด
สรุป: สำหรับทริปครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบาย งบประมาณเหมาะสม และได้เห็นความงามของธรรมชาติในจิ่วจ้ายโกวอย่างเต็มที่ ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และช่วง ปลายฤดูใบไม้ร่วง (ปลายตุลาคม) ดูจะเป็นตัวเลือกที่ลงตัวที่สุด
ไฮไลท์ธรรมชาติห้ามพลาดในจิ่วจ้ายโกว ที่เหมาะกับทุกวัยในครอบครัว
อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกวมีพื้นที่กว้างใหญ่ แบ่งออกเป็น 3 หุบเขาหลักในรูปตัว Y การเดินทางภายในอุทยานใช้ระบบรถบัสประจำทาง ซึ่งสะดวกสบายและเข้าถึงจุดชมวิวสำคัญต่างๆ ได้ง่าย ทำให้การเที่ยวกับครอบครัวที่มีเด็กและผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องยาก
ทะเลสาบห้าสี (Five Flower Lake หรือ Wuhua Hai): ได้รับการยกย่องว่าเป็น \”หัวใจของจิ่วจ้ายโกว\” และเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุด ด้วยสีสันของน้ำที่หลากหลาย ทั้งฟ้า เขียว เหลือง และแดงในบางส่วน ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุ สาหร่าย และท่อนไม้ที่จมอยู่ใต้น้ำ รวมถึงแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมา มีทางเดินริมทะเลสาบที่สะดวกสบาย ให้ทุกคนในครอบครัวเดินชมความงามและถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด

น้ำตกนั่วรื่อหลาง (Nuorilang Waterfall): น้ำตกขนาดใหญ่และกว้างที่สุดแห่งหนึ่งในจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นจุดที่รถบัสจะจอดให้นักท่องเที่ยวลงไปชม มีจุดชมวิวที่สามารถถ่ายภาพน้ำตกแบบเต็มๆ ได้อย่างสวยงาม การเข้าถึงง่าย ไม่ต้องเดินไกล เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ

ทะเลสาบยาว (Long Lake หรือ Chang Hai): เป็นทะเลสาบที่ใหญ่และอยู่สูงที่สุดในอุทยาน น้ำใสราวคริสตัล ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา ทิวทัศน์งดงามและสงบ มีจุดให้ลงไปเดินเล่นริมทะเลสาบสั้นๆ หรือนั่งพักผ่อนชมวิว
ทะเลสาบไข่มุก (Pearl Shoal หรือ Zhenzhu Tan) และ น้ำตกไข่มุก (Pearl Shoal Waterfall): ทะเลสาบที่เป็นลานหินปูนมีน้ำไหลผ่านเหมือนสายไข่มุก ก่อนที่จะไหลตกลงมาเป็นน้ำตกไข่มุกที่สวยงาม มีทางเดินไม้ที่สะดวก สามารถเดินตามทางน้ำไหลลงไปจนถึงตัวน้ำตกได้ เป็นจุดที่เด็กๆ น่าจะตื่นตาตื่นใจกับเสียงน้ำและธรรมชาติที่แปลกตา
หมู่บ้านชาวทิเบต (Tibetan Villages): ภายในหุบเขาซูเจิ้ง (Shuzheng Valley) มีหมู่บ้านชาวทิเบตดั้งเดิมตั้งอยู่ เช่น หมู่บ้านซูเจิ้ง (Shuzheng Village) นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเดินเล่นสัมผัสวิถีชีวิต เลือกซื้อของที่ระลึก หรือลองชิมอาหารท้องถิ่นได้ เป็นการเปิดประสบการณ์วัฒนธรรมให้กับครอบครัว นอกเหนือจากความงามทางธรรมชาติ

ทะเลสาบซูเจิ้ง (Shuzheng Lakes): เป็นกลุ่มทะเลสาบหลายระดับที่เรียงตัวกันเป็นชั้นๆ สลับกับน้ำตกเล็กๆ ในหุบเขาซูเจิ้ง มีกังหันน้ำโบราณและเจดีย์ทิเบตตั้งอยู่ริมทะเลสาบ ทำให้มีทิวทัศน์ที่สวยงามและมีเสน่ห์ สามารถเดินเล่นบนทางเดินไม้เชื่อมต่อระหว่างทะเลสาบต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
การเดินทางภายในอุทยานด้วยรถบัสช่วยลดภาระการเดิน ทำให้ครอบครัวสามารถชมจุดไฮไลท์สำคัญต่างๆ ได้ครบถ้วน โดยเลือกหยุดเฉพาะจุดที่น่าสนใจและใช้เวลาตามความเหมาะสม ทำให้จิ่วจ้ายโกวเป็นสถานที่ที่เที่ยวได้สบายๆ แม้มีสมาชิกในครอบครัวหลากหลายวัย
ทำไมจิ่วจ้ายโกวจึงเหมาะกับทริปครอบครัว?
หลายคนอาจกังวลว่าการพาเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุไปเที่ยวอุทยานธรรมชาติที่จีนจะลำบากหรือไม่ แต่จิ่วจ้ายโกวกลับเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับครอบครัวด้วยเหตุผลหลายประการ:
- ระบบขนส่งภายในอุทยานดีเยี่ยม: รถบัสรับส่งนักท่องเที่ยวภายในอุทยานมีความถี่สูง จอดตามจุดสำคัญต่างๆ ทำให้ไม่ต้องเดินไกลในทุกจุด สามารถเลือกเดินเฉพาะส่วนที่น่าสนใจและใช้รถบัสเดินทางระหว่างจุดหลักได้ ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้สูงอายุหรือเด็กที่อาจเดินไม่ทน
- ทางเดินไม้สะดวกสบาย: จุดชมวิวส่วนใหญ่เชื่อมต่อด้วยทางเดินไม้ที่เรียบและปลอดภัย เดินง่าย ไม่ต้องปีนป่าย ทำให้เด็กเล็กและผู้สูงอายุสามารถเดินชมวิวได้อย่างสบายใจ
- ความหลากหลายของทิวทัศน์: จิ่วจ้ายโกวมีทั้งทะเลสาบสีสวย น้ำตกที่อลังการ ป่าไม้ที่เขียวขจี และวิถีชีวิตชาวทิเบตที่น่าสนใจ ความหลากหลายนี้ทำให้เด็กๆ ไม่รู้สึกเบื่อ และผู้ใหญ่ก็ได้ชื่นชมความงามของธรรมชาติในหลายรูปแบบ
- บรรยากาศสงบและผ่อนคลาย: แม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก แต่บรรยากาศภายในอุทยานส่วนใหญ่มีความสงบและบริสุทธิ์ ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวได้พักผ่อนและใช้เวลาร่วมกันท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม
- โอกาสเรียนรู้: เป็นโอกาสที่ดีในการสอนเด็กๆ เกี่ยวกับธรรมชาติ ระบบนิเวศ และวัฒนธรรมท้องถิ่น
วางแผนเที่ยวจิ่วจ้ายโกวแบบประหยัดและสะดวกสำหรับครอบครัว
การเดินทางไปจิ่วจ้ายโกวจากประเทศไทย ส่วนใหญ่มักจะเดินทางผ่านเมืองเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางหลัก
การเดินทางจากเฉิงตูไปจิ่วจ้ายโกว:
- เครื่องบิน: สะดวกและรวดเร็วที่สุด มีเที่ยวบินตรงจากสนามบินเฉิงตู (CTU) ไปยังสนามบินจิ่วหวง (Jiu Huang Airport – JZH) ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง จากสนามบิน JZH จะต้องต่อรถบัสหรือแท็กซี่ไปยังอุทยานจิ่วจ้ายโกวอีกประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง วิธีนี้เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกเดินทางนานๆ แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
- รถบัส: เป็นวิธีที่ประหยัดงบประมาณ ใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน ประมาณ 8-10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและสภาพถนน สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งซินหนานเหมิน (Xinnanmen Bus Station) ในเฉิงตู เหมาะสำหรับครอบครัวที่เน้นงบประมาณและมีเวลาเดินทางเหลือเฟือ และสมาชิกในครอบครัวแข็งแรงพอสำหรับการนั่งรถนานๆ
สำหรับครอบครัวส่วนใหญ่ การบินจากเฉิงตูไปจิ่วหวงแล้วต่อรถถือเป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุด
เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการเที่ยวจิ่วจ้ายโกวกับครอบครัว:
- จองตั๋วเข้าชมล่วงหน้า: โดยเฉพาะหากเดินทางช่วงพีคซีซั่น ควรจองตั๋วเข้าชมอุทยานและตั๋วรถบัสภายในล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อประหยัดเวลาและรับประกันว่าจะได้เข้าชม
- วางแผนเส้นทาง: ศึกษาแผนที่อุทยานและระบบรถบัสคร่าวๆ ล่วงหน้า เพื่อวางแผนว่าจะแวะจุดไหนบ้าง อาจแบ่งเที่ยวเป็น 1-2 วัน ขึ้นอยู่กับเวลาและความสนใจ
- เริ่มต้นเช้าๆ: ควรเดินทางเข้าอุทยานตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนและมีเวลาเที่ยวชมได้อย่างเต็มที่
- เตรียมของใช้ส่วนตัว: เสื้อผ้าแบบเลเยอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพอากาศ (อากาศในหุบเขาเปลี่ยนแปลงบ่อย) รองเท้าที่สวมสบายและเหมาะกับการเดิน (สำคัญมาก!) ร่มหรือเสื้อกันฝน ครีมกันแดด หมวก แว่นกันแดด ยาประจำตัว และกระเป๋าเป้เล็กๆ สำหรับใส่ของจำเป็นระหว่างวัน
- อาหารและเครื่องดื่ม: ภายในอุทยานมีร้านอาหารและร้านค้าอยู่บ้าง แต่ราคาสูงและตัวเลือกจำกัด การพกน้ำดื่มและขนมขบเคี้ยวเล็กๆ น้อยๆ ติดตัวไปด้วยจะช่วยประหยัดและสะดวกกว่า โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ
- จัดการเรื่องความสูง: อุทยานจิ่วจ้ายโกวอยู่ในระดับความสูงประมาณ 2,000-3,100 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แม้ส่วนใหญ่จะเดินทางด้วยรถบัส แต่ก็อาจมีผลกับผู้ที่แพ้ความสูง ควรเดินช้าๆ ดื่มน้ำเยอะๆ และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ หากรู้สึกไม่สบายให้รีบแจ้งสมาชิกในครอบครัว
- เตรียมพร้อมเรื่องการสื่อสาร: แอปแปลภาษาออฟไลน์ หรือพกสมุดโน้ตเล็กๆ สำหรับเขียนหรือใช้ภาพช่วยสื่อสาร อาจมีประโยชน์ในกรณีที่ผู้ให้บริการไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้
คำถามที่พบบ่อย
Q: ไปเที่ยวจิ่วจ้ายโกวกับผู้สูงอายุหรือเด็กเล็กได้ไหม?
A: ได้สบายมากค่ะ ด้วยระบบรถบัสและทางเดินไม้ที่สะดวกสบายภายในอุทยาน ทำให้สามารถเที่ยวชมจุดสำคัญต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเดินเหนื่อยมาก เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยค่ะ
Q: ควรใช้เวลาเที่ยวในอุทยานจิ่วจ้ายโกวกี่วัน?
A: แนะนำอย่างน้อย 1 วันเต็ม หากต้องการเที่ยวแบบไม่รีบร้อนและเก็บรายละเอียดให้ครบ ควรใช้เวลา 2 วันในการเที่ยวชมค่ะ
Q: อากาศที่จิ่วจ้ายโกวเป็นอย่างไรในแต่ละเดือน?
A: เมษายน-พฤษภาคม: อากาศเย็นสบายกำลังดี, มิถุนายน-สิงหาคม: อบอุ่นถึงร้อน อาจมีฝน, กันยายน-ตุลาคม: เย็นสบาย ใบไม้เปลี่ยนสี (ช่วงปลายตุลาคมเริ่มหนาว), พฤศจิกายน-มีนาคม: หนาวจัด มีหิมะตก
Q: มีอาหารและเครื่องดื่มขายในอุทยานไหม?
A: มีจุดบริการอาหารและเครื่องดื่มภายในอุทยาน แต่มีตัวเลือกจำกัดและราคาสูงกว่าข้างนอก แนะนำให้พกน้ำดื่มและขนมไปด้วยส่วนหนึ่งค่ะ
Q: จิ่วจ้ายโกวมีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากไหม?
A: ทางเข้าอุทยานอยู่ที่ประมาณ 2,000 เมตร จุดที่สูงที่สุดเช่นทะเลสาบยาวอยู่ที่ประมาณ 3,100 เมตร แต่ส่วนใหญ่จะเดินทางด้วยรถบัส ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากความสูงค่ะ
การไปเยือนจิ่วจ้ายโกวสักครั้งคือประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และไม่ได้ยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวางแผนอย่างรอบคอบและเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม จิ่วจ้ายโกวพร้อมมอบความสุขและความประทับใจให้กับทุกสมาชิกในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นความตื่นตาตื่นใจของเด็กๆ หรือความสงบสุขของผู้ใหญ่ ทริปจิ่วจ้ายโกวจะเป็นความทรงจำที่ดีร่วมกันอย่างแน่นอน หากคุณกำลังมองหาความสะดวกสบายในการเดินทาง การเลือกซื้อแพ็กเกจทัวร์แบบครอบครัวก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการจองตั๋ว ที่พัก หรือการเดินทางภายใน ซึ่งจะทำให้คุณและครอบครัวได้พักผ่อนและดื่มด่ำกับความงามของจิ่วจ้ายโกวได้อย่างเต็มที่
ดูโปรแกรม ทัวร์จิ่วจ้ายโกว ได้ที่ Thaifly.com