การเริ่มต้นวันด้วยการทาครีมบำรุงผิวหน้าเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแล้ว ครีมทากลางวันยังทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะ แสงแดด และสิ่งเร้าภายนอกที่เราต้องเผชิญตลอดวันอีกด้วย การเลือกครีมทากลางวันที่เหมาะสมกับสภาพผิว ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวแลดูสุขภาพดี แต่ยังช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ลดโอกาสการเกิดสิว และทำให้การแต่งหน้าง่ายขึ้นและติดทนนานขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ยังคงให้ความชุ่มชื้นได้อย่างเพียงพอ คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ผิวของคุณสบาย ไม่มันเยิ้ม และสดใสได้ตลอดวัน
ครีมทากลางวันที่ดีควรช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง และปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย เช่น รังสียูวี ฝุ่นควัน หรือแม้กระทั่งความเครียด โดยไม่ทิ้งความรู้สึกหนักหน้าหรือเหนอะหนะ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดในช่วงเวลากลางวัน เพราะจะส่งผลต่อความสบายผิวและทำให้เมคอัพไม่ไหลเยิ้ม
รู้จักสภาพผิวของคุณ: ก้าวแรกสู่การเลือกที่ใช่

ก่อนจะเลือกซื้อครีมทากลางวันใดๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจสภาพผิวของตัวเองให้ถ่องแท้ เพราะแต่ละสภาพผิวมีความต้องการที่แตกต่างกัน การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ผิวมันยิ่งมันขึ้น ผิวแห้งยิ่งลอก หรือผิวแพ้ง่ายเกิดการระคายเคือง เรามาทำความรู้จักสภาพผิวหลักๆ กัน:
- ผิวมัน: ผิวประเภทนี้จะมีการผลิตน้ำมันส่วนเกิน (sebum) มากกว่าปกติ ทำให้ผิวหน้าดูมันเงา รูขุมขนกว้าง และมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ครีมทากลางวันที่เหมาะสำหรับผิวมันควรเป็นสูตร Oil-free, Non-comedogenic (ไม่ทำให้เกิดสิวอุดตัน) และมีเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมซาบเร็ว เพื่อช่วยควบคุมความมันและไม่เพิ่มความมันให้กับผิว
- ผิวแห้ง: ผิวแห้งมักจะขาดน้ำและน้ำมัน ทำให้รู้สึกตึง แห้งกร้าน ลอกเป็นขุย และอาจดูหมองคล้ำ ครีมทากลางวันที่เหมาะสำหรับผิวแห้งควรมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นขึ้น มีส่วนผสมที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นและสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เช่น เซราไมด์ หรือกรดไขมันจำเป็น เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน
- ผิวผสม: ผิวผสมเป็นสภาพผิวที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะมีบริเวณ T-zone (หน้าผาก จมูก คาง) ที่มันกว่าส่วนอื่น และบริเวณแก้มอาจจะแห้งหรือปกติ การเลือกครีมทากลางวันสำหรับผิวผสมจึงต้องมีความสมดุล นั่นคือให้ความชุ่มชื้นเพียงพอโดยไม่ทำให้ T-zone มันเยิ้มไปกว่าเดิม เนื้อสัมผัสแบบโลชั่นหรือเนื้อเจลครีมที่บางเบาแต่ให้ความชุ่มชื้นกำลังดีมักเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
- ผิวธรรมดา: ผิวประเภทนี้มีความสมดุลที่ดี ไม่มันหรือแห้งจนเกินไป รูขุมขนกระชับ และไม่ค่อยมีปัญหาผิว ครีมทากลางวันสำหรับผิวธรรมดาสามารถเลือกได้หลากหลาย แต่ยังคงควรเน้นที่การให้ความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากสิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างความแข็งแรงของผิว
- ผิวแพ้ง่าย: ผิวประเภทนี้มักจะไวต่อส่วนผสมบางอย่าง ทำให้เกิดการระคายเคือง ผื่นแดง หรือคันได้ง่าย ครีมทากลางวันที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายควรเป็นสูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และสีสังเคราะห์ และควรมีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว
ส่วนผสมสำคัญในครีมทากลางวันที่ช่วยควบคุมความมันและให้ความชุ่มชื้น

การเลือกครีมทากลางวันที่ดี ไม่ใช่แค่ดูที่เนื้อสัมผัส แต่ต้องพิจารณาส่วนผสมหลักที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวและให้ประโยชน์สูงสุดแก่ผิวของคุณ ในยุคปัจจุบันมีส่วนผสมมากมายที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมความมันและให้ความชุ่มชื้นอย่างสมดุล:
- Hyaluronic Acid (HA) หรือ กรดไฮยาลูรอนิก: เป็นส่วนผสมยอดนิยมที่สามารถพบได้ในครีมทากลางวันแทบทุกชนิด ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการดึงดูดและกักเก็บน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู โดยไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวมันก็ใช้ได้ดี เพราะให้ความชุ่มชื้นที่บางเบาแต่ล้ำลึก
- Niacinamide (Vitamin B3) หรือ ไนอะซินาไมด์: วิตามินบี 3 ตัวนี้เป็นฮีโร่สำหรับหลายปัญหาผิว ช่วยลดการอักเสบ ปรับสมดุลการผลิตน้ำมันใต้ผิว ทำให้ความมันส่วนเกินลดลง รูขุมขนดูเล็กลง และยังช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ลดรอยแดงรอยดำจากสิว และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เป็นส่วนผสมที่ผิวมันและผิวผสมควรมี
- Aloe Vera หรือ ว่านหางจระเข้: ขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และให้ความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวที่ต้องการความสดชื่น ด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมซาบเร็ว จึงไม่ทำให้ผิวมันเพิ่ม
- Oil-control Agents (สารควบคุมความมัน): สำหรับผู้ที่มีผิวมันมากๆ ส่วนผสมอย่าง Zinc PCA, Silica, หรือ Salicylic Acid (BHA) ในปริมาณที่เหมาะสม สามารถช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน ลดการอุดตันของรูขุมขน และควบคุมการผลิตซีบัมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ควรระวังอย่าให้มีปริมาณที่มากเกินไปจนทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้
- Glycerin: เป็น humectant อีกชนิดหนึ่งที่คล้ายกับ Hyaluronic Acid ทำหน้าที่ดึงน้ำจากอากาศเข้าสู่ผิว ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น โดยไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- Antioxidants (สารต้านอนุมูลอิสระ): เช่น Vitamin C, Vitamin E หรือ Green Tea Extract ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากมลภาวะและแสงแดด เสริมสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรงและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
เลือกเนื้อสัมผัสครีมทากลางวันให้เหมาะกับผิว
เนื้อสัมผัสของครีมทากลางวันมีผลอย่างมากต่อความรู้สึกสบายผิวและการทำงานของเมคอัพ การเลือกเนื้อสัมผัสที่ถูกต้องจะช่วยให้ผิวของคุณรู้สึกดีและดูดีตลอดวัน
สภาพผิว | เนื้อสัมผัสที่แนะนำ | คุณสมบัติ | เหมาะสำหรับ |
---|---|---|---|
ผิวมัน | เจล (Gel) หรือ เจลครีม (Gel-Cream) | เนื้อบางเบาที่สุด ซึมซาบเร็ว ไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะ Oil-free และ Non-comedogenic ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมัน | ผู้ที่ต้องการความสดชื่น ไม่หนักหน้า ควบคุมความมันได้ดี |
ผิวผสม | โลชั่น (Lotion) หรือ อิมัลชั่น (Emulsion) | เนื้อสัมผัสบางเบากว่าครีม แต่ให้ความชุ่มชื้นมากกว่าเจล มีความสมดุลที่ดีระหว่างน้ำและน้ำมัน ซึมซาบได้ดี | ผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นในระดับปานกลาง ไม่เพิ่มความมันในบริเวณ T-zone |
ผิวแห้ง | ครีม (Cream) | เนื้อสัมผัสเข้มข้นที่สุด มีส่วนผสมของน้ำมันและสารให้ความชุ่มชื้นสูง ช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน | ผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ลดความแห้งกร้านและอาการลอกเป็นขุย |
ผิวแพ้ง่าย | เนื้อบางเบา สูตรอ่อนโยน | ไม่ว่าจะเป็นเจล โลชั่น หรือครีม ควรเลือกสูตรที่ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ สีสังเคราะห์ และพาราเบน เน้นส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว | ผู้ที่มีผิวไวต่อการระคายเคืองง่าย ต้องการการบำรุงอย่างอ่อนโยน |
การทดลองทาผลิตภัณฑ์บนหลังมือหรือลำคอก่อนตัดสินใจซื้อจะช่วยให้คุณประเมินเนื้อสัมผัสและความรู้สึกหลังใช้ได้ดียิ่งขึ้น
ไม่ละเลย SPF: ครีมทากลางวันที่มีกันแดดในตัว

รังสียูวีเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัย ผิวหย่อนคล้อย และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง ดังนั้น การปกป้องผิวจากแสงแดดทุกวันจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ครีมทากลางวันที่มีส่วนผสมของสารกันแดด (SPF) ในตัวจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ
ควรเลือกครีมทากลางวันที่มี SPF อย่างน้อย 30 และมีค่า PA+++ ขึ้นไป เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA (ที่ทำให้เกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำ) และ UVB (ที่ทำให้ผิวไหม้แดด) ได้อย่างครอบคลุม แม้ในวันที่มีเมฆมากหรืออยู่ในอาคาร รังสียูวีก็ยังคงส่งผลกระทบต่อผิวได้ ดังนั้น การทาครีมกันแดดทุกวันจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
สำหรับผู้ที่ต้องออกแดดจัดเป็นเวลานาน หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง อาจพิจารณาใช้ครีมกันแดดแยกต่างหากหลังจากทาครีมทากลางวัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดให้สูงสุด อย่างไรก็ตาม ครีมทากลางวันที่มี SPF ในตัวก็เพียงพอสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ และยังช่วยลดขั้นตอนการบำรุงผิวในตอนเช้า ทำให้ประหยัดเวลาได้อีกด้วย
เทคนิคการเลือกและทดลองใช้ครีมทากลางวัน

เมื่อคุณเข้าใจสภาพผิวและส่วนผสมที่ต้องการแล้ว ก็ถึงเวลาเลือกซื้อและทดลองใช้ครีมทากลางวัน โดยมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น:
- ทดลองกับผิว: หากเป็นไปได้ ให้ทดลองทาผลิตภัณฑ์ตัวอย่างบนผิวบริเวณกรามหรือหลังใบหู เพื่อดูปฏิกิริยาของผิวและเนื้อสัมผัสที่แท้จริง
- อ่านฉลากอย่างละเอียด: มองหาส่วนผสมหลักที่ต้องการ และหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารกันเสียบางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผิวแพ้ง่าย
- คำนึงถึงฤดูกาล: สภาพผิวของเราอาจเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนชื้น อาจต้องการครีมที่บางเบาและควบคุมความมันได้ดี ในขณะที่ฤดูหนาวที่อากาศแห้ง อาจต้องการครีมที่เข้มข้นขึ้นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
- ให้เวลาผิวปรับตัว: เมื่อเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ควรให้เวลาผิวได้ปรับตัวประมาณ 2-4 สัปดาห์ ก่อนจะตัดสินว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ เหมาะกับคุณหรือไม่
- ฟังเสียงผิวของคุณ: สิ่งสำคัญที่สุดคือการสังเกตปฏิกิริยาของผิว หากรู้สึกระคายเคือง แสบ คัน หรือเกิดสิวเพิ่มขึ้น ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นทันที
ประโยชน์ของการเลือกครีมทากลางวันที่เหมาะสม

การลงทุนในครีมทากลางวันที่ใช่ มีคุณค่ามากกว่าแค่การบำรุงผิวเพียงชั่วคราว แต่เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาว และส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตประจำวันของคุณ:
- ผิวสบาย ไม่มันเยิ้ม: ครีมที่เหมาะสมจะช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ทำให้คุณรู้สึกสบายผิว ไม่เหนอะหนะ และมั่นใจตลอดวัน
- ลดโอกาสเกิดสิว: การควบคุมความมันและลดการอุดตันของรูขุมขนช่วยลดโอกาสการเกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แต่งหน้าง่ายขึ้นและติดทน: ผิวที่ชุ่มชื้นแต่ไม่มันเยิ้มเป็นเบสที่ดีสำหรับการแต่งหน้า ทำให้เครื่องสำอางติดทนนาน ไม่ตกร่อง
- ปกป้องผิวจากมลภาวะ: ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน ช่วยลดผลกระทบจากฝุ่นควันและสิ่งสกปรกที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน
- ลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย: การปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
- ผิวแข็งแรงสุขภาพดี: การบำรุงอย่างสม่ำเสมอด้วยส่วนผสมที่เหมาะสม ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ทำให้ผิวสามารถรับมือกับปัจจัยภายนอกได้ดีขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
A: โดยทั่วไปแล้วแนะนำให้ใช้แยกกันค่ะ เพราะครีมทากลางวันมักเน้นการปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนอะหนะ ส่วนครีมทากลางคืนจะเน้นการฟื้นฟู ซ่อมแซมผิว และมักมีส่วนผสมที่เข้มข้นกว่าเพื่อบำรุงผิวในขณะที่คุณพักผ่อน
A: ไม่จำเป็นเสมอไปค่ะ เทคโนโลยีการผลิตครีมกันแดดในปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก ทำให้ครีมทากลางวันที่มี SPF สูงๆ มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะเหมือนสมัยก่อน ควรเลือกสูตรที่เป็นเนื้อเจล หรือเจลครีม หากกังวลเรื่องความหนักหน้าค่ะ
A: ไม่ควรค่ะ แม้ผิวมันก็ยังต้องการความชุ่มชื้น หากผิวขาดน้ำ อาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อชดเชย ทำให้ผิวยิ่งมันกว่าเดิม ควรเลือกครีมทากลางวันสูตร Oil-free, Non-comedogenic ที่มีเนื้อสัมผัสแบบเจล เพื่อให้ความชุ่มชื้นที่จำเป็นโดยไม่เพิ่มความมันค่ะ
หากสนใจอยากเริ่มต้นธุรกิจสร้างแบรนด์ครีมทากลางวันของตัวเอง สามารถติดต่อสอบถามกับ iBio ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เราพร้อมดูแลคุณตั้งแต่เริ่มต้นให้คำปรึกษาจนจบกระบวนการ โทรเลย 02-713-8989 หรือดูรายละเอียดบริการรับผลิตครีมทากลางวันของ iBio ได้ที่ รับผลิตครีมทากลางวัน oem พร้อมสร้างแบรนด์ครบวงจร