สุดยอดเคล็ดลับ: ตั๋วเครื่องบินราคาถูก จองยังไงให้ได้โปรโมชั่นโดนใจ
การเดินทางโดยเครื่องบินไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป หากคุณรู้เทคนิคและวิธีการจองที่ถูกต้อง การหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกพร้อมโปรโมชั่นดีๆ เป็นเรื่องที่ทำได้จริง เราได้รวบรวม 20 เทคนิคที่คุณต้องรู้ เพื่อให้คุณบินในฝันได้ในราคาที่สบายกระเป๋าที่สุด!
- จองล่วงหน้านานๆ คือหัวใจสำคัญ โดยทั่วไปแล้ว การจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าหลายเดือน (ประมาณ 2-6 เดือนสำหรับเส้นทางระหว่างประเทศ และ 1-3 เดือนสำหรับเส้นทางในประเทศ) มักจะได้ราคาที่ดีที่สุด เพราะสายการบินจะเริ่มปล่อยตั๋วในราคาโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดผู้โดยสาร ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม สามารถใช้ได้กับทุกสายการบิน แต่แนะนำให้เช็คราคาผ่าน Skyscanner หรือ Google Flights เพื่อเปรียบเทียบราคาในช่วงเวลาต่างๆ ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: กำหนดวันเดินทางคร่าวๆ ล่วงหน้า
- ขั้นตอนที่ 2: เริ่มค้นหาตั๋วตั้งแต่วันนี้
- ขั้นตอนที่ 3: เปรียบเทียบราคาตามช่วงเวลาที่แตกต่างกัน
- ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรเช็คสม่ำเสมอ
- จองใกล้ๆ วันเดินทาง (กลยุทธ์เสี่ยงแต่บางทีได้โปรฯ นาทีสุดท้าย) บางครั้งสายการบินอาจมีโปรโมชั่นนาทีสุดท้าย (Last-minute Deals) เพื่อเติมที่นั่งที่ยังว่างอยู่ โดยเฉพาะในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้มีความเสี่ยงสูงที่ตั๋วอาจจะเต็มหรือแพงกว่าปกติ ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม AirAsia, Nok Air หรือเว็บไซต์ดีลท่องเที่ยวต่างๆ เช่น Traveloka มักมีโปรฯ นาทีสุดท้าย ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: เข้าเช็คราคาบ่อยๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง
- ขั้นตอนที่ 2: เตรียมพร้อมจองทันทีเมื่อเจอราคาที่พอใจ
- เหมาะสำหรับคนที่มีความยืดหยุ่นในการเดินทาง
- เปรียบเทียบราคาจากหลายเว็บไซต์จองตั๋ว เว็บไซต์จองตั๋วออนไลน์แต่ละแห่งอาจมีราคาและโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน การเปรียบเทียบจากหลายๆ แพลตฟอร์มจะช่วยให้คุณเจอราคาที่ดีที่สุด ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม Agoda, Booking.com, Trip.com, Expedia ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: ค้นหาเส้นทางและวันที่ต้องการในหลายๆ เว็บไซต์
- ขั้นตอนที่ 2: เปรียบเทียบราคาสุทธิ (รวมภาษีและค่าธรรมเนียมแล้ว)
- ขั้นตอนที่ 3: เลือกเว็บไซต์ที่ให้ราคาดีที่สุด
- เช็คเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกของแต่ละเว็บด้วย
- ใช้เว็บไซต์ Aggregator หรือเครื่องมือเปรียบเทียบราคา เว็บไซต์เหล่านี้จะรวบรวมราคาจากสายการบินและเอเจนซี่ต่างๆ มาให้เปรียบเทียบในที่เดียว สะดวกและประหยัดเวลา ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม Skyscanner, Google Flights, Kayak ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: เข้าเว็บไซต์ Aggregator
- ขั้นตอนที่ 2: ใส่ข้อมูลการเดินทาง
- ขั้นตอนที่ 3: ดูผลการเปรียบเทียบราคาจากแหล่งต่างๆ
- บางครั้ง Aggregator อาจไม่รวมสายการบิน Low-Cost บางแห่ง
- สมัครรับข่าวสาร (Newsletter) ของสายการบินและเว็บไซต์จองตั๋ว สายการบินและเอเจนซี่มักจะส่งโปรโมชั่นพิเศษหรือโค้ดส่วนลดผ่านทางอีเมล ผู้ที่สมัครรับข่าวสารจึงมีโอกาสเข้าถึงดีลดีๆ ก่อนใคร ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม สายการบินทุกแห่ง (การบินไทย, บางกอกแอร์เวย์ส ฯลฯ) และเว็บไซต์จองตั๋วหลักๆ ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: เข้าเว็บไซต์ของสายการบินหรือเอเจนซี่
- ขั้นตอนที่ 2: มองหาปุ่ม ‘สมัครรับข่าวสาร’ หรือ ‘Subscribe’
- ขั้นตอนที่ 3: กรอกอีเมลและยืนยันการสมัคร
- สร้างโฟลเดอร์แยกในอีเมลเพื่อจัดระเบียบโปรโมชั่น
- ติดตามโซเชียลมีเดียของสายการบินและเพจโปรโมชั่นท่องเที่ยว โปรโมชั่นหลายอย่างมักถูกประกาศทาง Facebook, Twitter หรือ Instagram ก่อน การติดตามจะช่วยให้คุณไม่พลาดข่าวสาร ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม Facebook Page: Thai AirAsia, Nok Air, และเพจรีวิวโปรโมชั่นต่างๆ ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: กดติดตามเพจที่สนใจ
- ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าการแจ้งเตือน (See First)
- ขั้นตอนที่ 3: หมั่นเช็คฟีดข่าวสาร
- โปรโมชั่นบนโซเชียลมีเดียมักมีจำนวนจำกัด
- ใช้บัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์ด้านการเดินทาง บัตรเครดิตบางประเภทให้ส่วนลดสำหรับการจองตั๋วเครื่องบิน สะสมคะแนนแลกตั๋ว หรือมีโปรโมชั่นร่วมกับสายการบินและเอเจนซี่ ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ที่ออกบัตรเครดิตร่วมกับสายการบิน (เช่น Krungsri-Thai Airways, KTC-Bangkok Airways) หรือบัตรที่ให้คะแนนสะสมสูงเมื่อใช้จ่ายด้านการเดินทาง ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตที่คุณมี
- ขั้นตอนที่ 2: ใช้บัตรนั้นในการชำระเงินเมื่อจองตั๋ว
- ขั้นตอนที่ 3: แลกคะแนนสะสมเป็นส่วนลดหรือตั๋วฟรี
- อ่านเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมของบัตรให้ละเอียด
- จองในวันและเวลาที่เหมาะสม (นอกช่วงเวลา Peak Hours) มีความเชื่อว่าการจองตั๋วในบางวัน เช่น วันอังคารหรือวันพุธ และในช่วงกลางดึกหรือเช้าตรู่ อาจได้ราคาที่ดีกว่า เพราะเป็นช่วงที่ผู้คนไม่ค่อยจอง แต่จริงๆ แล้วราคาขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างรวมกันมากกว่า ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม ทุกสายการบินและแพลตฟอร์มจองตั๋ว ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: ลองเช็คราคาในวันและเวลาที่ต่างกัน
- ขั้นตอนที่ 2: เปรียบเทียบและเลือกช่วงเวลาที่ให้ราคาถูกที่สุด
- ใช้เครื่องมือเช็คราคาที่แสดงกราฟราคาตามวัน
- เดินทางในช่วง Low Season (ฤดูท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวน้อย) ช่วง Low Season หรือฤดูที่คนไม่นิยมเดินทาง มักมีราคาตั๋วเครื่องบินและที่พักถูกกว่าช่วง High Season อย่างมาก ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม ทุกสายการบินและเส้นทางท่องเที่ยว ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: ศึกษาว่าจุดหมายปลายทางของคุณมี Low Season ช่วงเดือนไหน
- ขั้นตอนที่ 2: วางแผนเดินทางในช่วงเดือนเหล่านั้น
- สภาพอากาศในช่วง Low Season อาจไม่เหมาะเท่า High Season
- เดินทางวันธรรมดาแทนวันหยุดสุดสัปดาห์ ราคาตั๋วเครื่องบินในวันธรรมดา (จันทร์-พฤหัสบดี) มักจะถูกกว่าการเดินทางในวันศุกร์ เสาร์ หรืออาทิตย์ เนื่องจากมีความต้องการน้อยกว่า ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม ทุกสายการบินและเส้นทาง ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: วางแผนการเดินทางให้เป็นวันธรรมดา
- ขั้นตอนที่ 2: เปรียบเทียบราคากับวันหยุดสุดสัปดาห์
- อาจต้องขอลาหยุดงานหากทำงานประจำ
- เดินทางไฟล์ทเช้าตรู่หรือดึกมาก ไฟล์ทที่มีเวลาออกเดินทางไม่เป็นที่นิยม เช่น ไฟล์ทแรกของวัน หรือไฟล์ทสุดท้ายของวัน มักมีราคาถูกกว่าไฟล์ทในช่วงเวลาปกติ ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม ทุกสายการบิน โดยเฉพาะสายการบิน Low-Cost ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: ค้นหาตั๋วโดยเลือกเวลาออกเดินทางที่หลากหลาย
- ขั้นตอนที่ 2: เปรียบเทียบราคาของไฟล์ทช่วงเช้าตรู่หรือดึก
- ตรวจสอบการเดินทางไปยังสนามบินในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
- พิจารณาไฟล์ทที่มีต่อเครื่อง (Connecting Flights) การเดินทางแบบมีจุดแวะพัก (Layover) มักจะมีราคาถูกกว่าไฟล์ทตรง (Direct Flight) อย่างไรก็ตาม อาจใช้เวลาเดินทางนานกว่า ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม ทุกสายการบินและเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางระหว่างประเทศระยะไกล ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: ในเว็บจองตั๋ว ให้เลือกตัวเลือก ‘มีจุดแวะพัก’
- ขั้นตอนที่ 2: เปรียบเทียบราคากับไฟล์ทตรง
- ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบระยะเวลาแวะพักว่าเหมาะสมหรือไม่
- ตรวจสอบข้อกำหนดเกี่ยวกับสัมภาระสำหรับไฟล์ทต่อเครื่อง
- บินลงสนามบินรอง (Secondary Airports) บางเมืองอาจมีสนามบินมากกว่าหนึ่งแห่ง โดยสนามบินที่อยู่ไกลจากตัวเมืองมากกว่า (สนามบินรอง) มักมีค่าธรรมเนียมสนามบินที่ถูกกว่า ทำให้ราคาตั๋วโดยรวมถูกลง ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม เส้นทางบินไปยังเมืองใหญ่ๆ ที่มีสนามบินหลายแห่ง เช่น ลอนดอน (LHR, LGW, STN, LTN), นิวยอร์ก (JFK, EWR, LGA), กรุงเทพ (BKK, DMK) ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: ค้นหาว่าจุดหมายปลายทางของคุณมีสนามบินรองหรือไม่
- ขั้นตอนที่ 2: เปรียบเทียบราคาตั๋วที่บินลงสนามบินหลักและสนามบินรอง
- ขั้นตอนที่ 3: คำนวณค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทางจากสนามบินรองเข้าเมือง
- ค่าเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินรองอาจมีราคาสูง
- ซื้อตั๋วแบบ Multi-city หรือ Open-jaw หากแผนเดินทางของคุณไม่ใช่การบินไป-กลับจากเมืองเดิม การซื้อตั๋วแบบบินไปลงเมืองหนึ่ง แล้วบินกลับจากอีกเมืองหนึ่ง (Open-jaw) หรือบินหลายๆ เมือง (Multi-city) อาจได้ราคาถูกกว่าการซื้อตั๋วแยกเป็นเที่ยวๆ ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม ส่วนใหญ่ใช้ได้กับสายการบิน Full Service และเว็บไซต์ Aggregator บางแห่ง ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: วางแผนเส้นทางเดินทางหลายเมือง
- ขั้นตอนที่ 2: ใช้ฟังก์ชัน Multi-city/Open-jaw ในเว็บไซต์จองตั๋ว
- ขั้นตอนที่ 3: เปรียบเทียบราคากับการซื้อตั๋วแยกแต่ละเที่ยว
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวหลายประเทศ/เมืองในการเดินทางเดียว
- ใช้คะแนนสะสมหรือไมล์จากโปรแกรมสะสมคะแนนของสายการบิน หากคุณเป็นสมาชิกโปรแกรมสะสมคะแนนของสายการบินต่างๆ การใช้ไมล์หรือคะแนนสะสมแลกตั๋วเครื่องบินเป็นอีกวิธีที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม โปรแกรมสะสมคะแนนของสายการบินต่างๆ เช่น Royal Orchid Plus (การบินไทย), FlyerBonus (บางกอกแอร์เวย์ส), AirAsia BIG (AirAsia) ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบยอดไมล์หรือคะแนนสะสมของคุณ
- ขั้นตอนที่ 2: เข้าสู่ระบบสมาชิกบนเว็บไซต์สายการบิน
- ขั้นตอนที่ 3: ค้นหาตั๋วโดยเลือกใช้ไมล์/คะแนนแลก
- บางช่วงเวลาอาจมีโปรโมชั่นใช้ไมล์น้อยลงในการแลกตั๋ว
- ใช้บริการ Agent หรือบริษัททัวร์ (บางทีได้ราคาพิเศษแบบกลุ่ม) บริษัททัวร์หรือเอเจนซี่บางแห่งอาจมีโควต้าตั๋วในราคาพิเศษ หรือสามารถจองตั๋วแบบกลุ่มในราคาที่ถูกกว่าการจองเอง โดยเฉพาะเมื่อเดินทางหลายคน ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม บริษัททัวร์ชั้นนำทั่วไป เช่น Thaifly.com, KTC World Travel Service ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: ติดต่อสอบถามบริษัททัวร์หรือเอเจนซี่
- ขั้นตอนที่ 2: แจ้งเส้นทางและวันเดินทางที่ต้องการ
- ขั้นตอนที่ 3: เปรียบเทียบราคากับการจองด้วยตัวเอง
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเสียเวลาหาข้อมูลเอง หรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม
- พิจารณาสายการบิน Low-Cost Carrier (หากเงื่อนไขเหมาะสม) สายการบินต้นทุนต่ำ (Low-Cost Carrier) มักมีราคาตั๋วโดยสารพื้นฐานที่ถูกกว่าสายการบิน Full Service อย่างไรก็ตาม บริการต่างๆ เช่น สัมภาระ อาหาร และการเลือกที่นั่ง มักจะไม่รวมอยู่ในราคาตั๋ว และต้องซื้อเพิ่มเติม ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม AirAsia, Nok Air, Thai Lion Air ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: ค้นหาเส้นทางที่ Low-Cost Carrier ให้บริการ
- ขั้นตอนที่ 2: คำนวณค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับสัมภาระและบริการอื่นๆ ที่ต้องการ
- ขั้นตอนที่ 3: เปรียบเทียบราคาสุทธิกับสายการบิน Full Service
- เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางโดยมีสัมภาระน้อยหรือไม่ต้องการบริการพิเศษบนเครื่อง
- อ่านรีวิวและเงื่อนไขของตั๋วให้ละเอียด ตั๋วราคาถูกมักมีเงื่อนไขที่จำกัด เช่น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ คืนเงินไม่ได้ หรือจำกัดน้ำหนักสัมภาระ การอ่านเงื่อนไขให้เข้าใจก่อนจองจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีที่สุดและหลีกเลี่ยงปัญหาในภายหลัง ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม ทุกสายการบินและเอเจนซี่ ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: ก่อนกดจองหรือชำระเงิน ให้คลิกอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขของประเภทตั๋ว
- ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบนโยบายการเปลี่ยนแปลง การยกเลิก และสัมภาระ
- ขั้นตอนที่ 3: ยืนยันว่าเงื่อนไขเหล่านั้นเหมาะสมกับแผนของคุณ
- หากไม่แน่ใจ ควรสอบถามกับสายการบินหรือเอเจนซี่โดยตรง
- ล้าง Cache และ Cookies ใน Browser (ความเชื่อยอดนิยม) มีความเชื่อว่าเว็บไซต์จองตั๋วอาจใช้ข้อมูล Cache หรือ Cookies เพื่อปรับราคาตั๋วให้สูงขึ้นตามความสนใจของคุณ การล้างข้อมูลเหล่านี้หรือใช้ Incognito/Private Mode ใน Browser อาจช่วยให้เห็นราคาจริง อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของเทคนิคนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกัน ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม เว็บไซต์จองตั๋วออนไลน์ทั่วไป ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: เปิด Browser ในโหมด Incognito/Private
- ขั้นตอนที่ 2: หรือไปที่การตั้งค่า Browser เพื่อล้าง Cache และ Cookies
- ขั้นตอนที่ 3: เข้าเว็บไซต์จองตั๋วและค้นหาอีกครั้ง
- ลองเปรียบเทียบราคาระหว่างโหมดปกติและโหมดส่วนตัว
- ตั้งแจ้งเตือนราคา (Price Alerts) เครื่องมือแจ้งเตือนราคาจะคอยติดตามความเคลื่อนไหวของราคาตั๋วในเส้นทางและช่วงเวลาที่คุณสนใจ และแจ้งให้คุณทราบเมื่อราคาตั๋วลดลง ทำให้คุณไม่พลาดโอกาสทองในการจองตั๋วราคาถูก ตัวอย่างสายการบินหรือแพลตฟอร์ม Google Flights, Skyscanner, Kayak ขั้นตอนการจอง
- ขั้นตอนที่ 1: ค้นหาเส้นทางและวันเดินทางที่ต้องการในแพลตฟอร์มที่มีฟังก์ชันนี้
- ขั้นตอนที่ 2: มองหาตัวเลือก ‘สร้างการแจ้งเตือนราคา’ หรือ ‘Track Prices’
- ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าการแจ้งเตือนผ่านอีเมลหรือแอปพลิเคชัน
- ตั้งแจ้งเตือนสำหรับช่วงวันที่ยืดหยุ่นได้ เพื่อเพิ่มโอกาสเจอราคาถูก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก
Q: วันไหนของสัปดาห์ที่ราคาตั๋วเครื่องบินถูกที่สุด?
A: มีความเชื่อว่าวันอังคารและวันพุธมักจะมีราคาถูกกว่าวันอื่นๆ แต่ราคาตั๋วเครื่องบินนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามความต้องการและปัจจัยอื่นๆ การเช็คราคาในหลายๆ วันจะให้ข้อมูลที่แม่นยำที่สุด
Q: ต้องจองล่วงหน้านานแค่ไหนถึงจะได้ราคาดีที่สุด?
A: โดยทั่วไป การจองล่วงหน้าประมาณ 2-6 เดือนสำหรับเส้นทางระหว่างประเทศ และ 1-3 เดือนสำหรับเส้นทางในประเทศ มักจะได้ราคาที่ดี อย่างไรก็ตาม ควรเปรียบเทียบราคาในหลายๆ ช่วงเวลา เพื่อหาช่วงที่เหมาะสมที่สุด
Q: สายการบิน Low-Cost ปลอดภัยไหม?
A: สายการบิน Low-Cost ทุกแห่งที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินในประเทศไทยและเส้นทางระหว่างประเทศที่ได้รับความนิยม ต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยสากลเช่นเดียวกับสายการบิน Full Service ความปลอดภัยจึงไม่ได้แตกต่างกัน แต่บริการเสริมอาจถูกลดทอนลง
Q: ทำไมราคาตั๋วเครื่องบินถึงเปลี่ยนตลอดเวลา?
A: ราคาตั๋วเครื่องบินถูกกำหนดด้วยระบบ Dynamic Pricing ซึ่งจะปรับราคาตามความต้องการ (Demand) จำนวนที่นั่งที่ยังว่างอยู่ ต้นทุนการดำเนินงาน และปัจจัยอื่นๆ เช่น ราคาน้ำมัน โปรโมชั่นของคู่แข่ง ทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
Q: ควรซื้อประกันการเดินทางพร้อมตั๋วเครื่องบินไหม?
A: การซื้อประกันการเดินทางเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างประเทศ ประกันจะคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ไฟล์ทดีเลย์ กระเป๋าเดินทางสูญหาย หรือเจ็บป่วยในต่างแดน ค่าใช้จ่ายประกันมักจะไม่สูงมากเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ
Q: ถ้าไฟล์ทดีเลย์หรือยกเลิก จะทำอย่างไร?
A: ติดต่อสายการบินทันทีเพื่อสอบถามสิทธิ์ของคุณ ซึ่งอาจรวมถึงการเปลี่ยนไฟล์ทใหม่โดยไม่มีค่าใช้จ่าย การคืนเงิน หรือการชดเชยตามกฎของสายการบินหรือกฎหมายของประเทศนั้นๆ หากซื้อประกันการเดินทางไว้ สามารถเคลมค่าชดเชยจากบริษัทประกันได้ด้วย
บริการจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรม โดยมืออาชีพ เปรียบเสมือนคุณมีเลขาส่วนตัว ช่วยหาตั๋วเครื่องบิน ไฟลท์ดี ห้องพักโดนใจ ราคาพิเศษที่สุดจากทุกสายการบินชั้นนำทั่วโลก ให้เราช่วยคุณวางแผนการเดินทาง เพียงแค่โทรหาเรา
แผนกตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และวีซ่า
คุณแพน
LINE ID: @thaifly1 (อย่าลืมใส่ @ ข้างหน้าด้วยนะคะ)
โทร: 083-988-2512
อีเมล: pan@thaifly.com
คุณนัตตี้
LINE ID: @thaifly3 (อย่าลืมใส่ @ ข้างหน้าด้วยนะคะ)
โทร: 090-973-4196
อีเมล: info@thaifly.com
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Thaifly.com